รู้จัก Codex กันก่อนว่าคืออะไร ?
OpenAI Codex คือโมเดลภาษา AI เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2021 ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อ อ่าน เข้าใจ และเขียนโค้ดโปรแกรม ได้หลากหลายภาษา เช่น Python, JavaScript, TypeScript, Ruby, Go, PHP, และอื่น ๆ รวมถึงสามารถแปลคำอธิบายจากภาษาธรรมชาติ (เช่น ภาษาอังกฤษ) ให้กลายเป็นโค้ดได้โดยตรง
สรุปให้เข้าใจง่ายขึ้น
OpenAI Codex คือ AI ที่สามารถ “แปลคำพูดให้กลายเป็นโค้ด” ได้ ซึ่งมีผลโดยตรงกับโปรแกรมเมอร์ ทั้งช่วยประหยัดเวลา เพิ่มความเร็วในการทำงาน และเปิดโอกาสให้คนทั่วไปเข้าถึงการเขียนโปรแกรมได้ง่ายขึ้น — แต่ก็ต้องใช้อย่างระมัดระวังและไม่ทิ้งการพัฒนา “ทักษะพื้นฐานของมนุษย์”
Update !!
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2025 OpenAI ได้เปิดตัว Codex เวอร์ชันใหม่ในรูปแบบ "AI coding agent"
ซึ่งเป็นการพัฒนาไปอีกขั้นจากโมเดล Codex เดิมที่เปิดตัวในปี 2021 . Codex ใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยนักพัฒนาในการเขียนโค้ด แก้ไขบั๊ก และทดสอบซอฟต์แวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

คุณสมบัติเด่นของ Codex (เวอร์ชัน 2025)
- โมเดล Codex-1: พัฒนาต่อยอดจากโมเดล o3 โดยปรับแต่งเฉพาะสำหรับงานด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ ทำให้สามารถเขียนโค้ด แก้ไขบั๊ก และทดสอบโค้ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การทำงานแบบอัตโนมัติ: Codex สามารถทำงานได้อย่างอิสระในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย (sandboxed environment) โดยสามารถดำเนินการต่าง ๆ เช่น เขียนโค้ด แก้ไขบั๊ก และทดสอบโค้ด โดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากผู้ใช้
- การทำงานแบบขนาน: สามารถจัดการหลายงานพร้อมกัน เช่น การเขียนฟีเจอร์ใหม่ การตอบคำถามเกี่ยวกับโค้ดเบส การแก้ไขบั๊ก และการเสนอ pull requests เพื่อรีวิว
- การปรับให้เข้ากับสไตล์ขององค์กร: Codex สามารถเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับสไตล์การเขียนโค้ดขององค์กร ช่วยในการรีวิวโค้ดและรักษามาตรฐานของโค้ดเบส
- การเข้าถึง: ขณะนี้ Codex เปิดให้ใช้งานในรูปแบบ "research preview" สำหรับผู้ใช้ ChatGPT Pro, Team และ Enterprise โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
บี : จะสรุปให้เห็นภาพว่าจุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ตรงไหน ?
1. คนธรรมดาที่ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์จะเขียน Code ได้ (โดยไม่ต้องเสียเวลากลับไปเรียน 4 ปี)
1.1. พูดภาษาปกติแล้วให้ AI แปลงเป็นโค้ด คุณสามารถอธิบายสิ่งที่คุณต้องการเป็นภาษาคน เช่น "ฉันอยากสร้างระบบที่ส่งอีเมลแนะนำเส้นทางรายได้แบบอัตโนมัติ หลังจากผู้ใช้งานกรอกแบบฟอร์มเป้าหมาย" แล้ว AI อย่าง Codex สามารถเขียนสคริปต์หรือ workflow บนระบบต่าง ๆ (เช่น Zapier, n8n, Python script ฯลฯ) ให้คุณได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเอง
1.2 ช่วยเราพัฒนาระบบที่เราคิดไว้แต่ยังทำไม่ได้เพราะอดีตต้องใช้โปรแกรมเมอร์ ! ทำให้คุณ “ควบคุมการสร้างระบบของตัวเอง” ได้ แม้คุณไม่รู้ภาษาโปรแกรม เช่น
- สร้างโค้ดที่ใช้ต่อกับ LINE OA, Google Sheets, Airtable, Notion, Webhook, Zapier, n8n
- เขียน HTML / JavaScript สำหรับหน้าเว็บ Landing Page หรือฟอร์มของคุณ
- สร้างโปรแกรมเล็ก ๆ ช่วยบริหารสมาชิกหรือส่งข้อมูลไปยังระบบต่าง ๆ
- สร้าง AI Bot / Chatbot ที่ทำงานตามเงื่อนไขที่คุณกำหนด
1.3. ในบางกรณีรวดเร็วกว่าจ้างโปรแกรมเมอร์ เพราะ...
- ไม่ต้องอธิบายหลายรอบกับทีมเทคนิค
- ทดลองระบบได้เลย เห็นผลลัพธ์ทันที
- แก้ไข ปรับแต่ง ลองผิดลองถูกได้เอง โดยไม่ต้องรอคนอื่น
เหมาะมากกับระบบที่คุณต้องการ พัฒนาเร็ว เรียนรู้ไว และปรับได้ตามผลลัพธ์
ทำไม “คนไม่เขียนโค้ด” ถึงจะก้าวหน้ากว่า “โปรแกรมเมอร์เดิมๆ” ในยุค AI
1. เพราะ AI เขียนโค้ดได้แทน แต่ “ความเข้าใจระบบ-ภาพรวม-ปัญหา” ยังต้องใช้คน
โปรแกรมเมอร์เก่งบางคนเขียนโค้ดเร็ว แต่ไม่ได้มองเห็น “ระบบภาพใหญ่” หรือ “เป้าหมายเชิงธุรกิจ” คนที่มองเห็น Vision และสื่อสารไอเดียชัดๆ จะสามารถให้ AI ช่วยทำทุกอย่างให้สำเร็จได้เร็วกว่า
2. เพราะ AI ทำงานได้เร็วกว่าโปรแกรมเมอร์หลายคนรวมกัน
- เขียนโค้ดได้ในไม่กี่วินาที
- ทดสอบ แก้บั๊ก ส่งคำสั่งต่อไปเองได้ (ใน Codex Agent)
- ทำงาน 24 ชม. ไม่เหนื่อย ไม่อารมณ์เสีย ไม่บ่นเรื่องรีเควสต์แก้ใหม่
3. เพราะการ “ถามให้ถูก” สำคัญกว่า “เขียนให้เก่ง
คนที่สื่อสารกับ AI เก่ง (prompt engineering) = คนที่ควบคุมทีมโปรแกรมเมอร์ AI ได้ทั้งทีม
แนวโน้มในอนาคต (2025–2026) *ความคิดเห็นส่วนตัว*
- AI จะกลายเป็น คู่หูประจำโต๊ะทำงานของนักพัฒนา เหมือนมีผู้ช่วยตลอดเวลา
- โปรแกรมเมอร์ที่ ใช้ AI ได้คล่อง จะเป็น “หัวหน้าทีม” หรือ “ผู้พัฒนาระบบใหญ่”
- ส่วนโปรแกรมเมอร์ที่ ไม่ยอมปรับตัว จะถูกลดบทบาทลงเหลือเพียงงานบางประเภทที่ AI ยังทำไม่ได้ (เช่นโค้ด low-level ที่เฉพาะทางมาก)
กานต์ศศิน สมนึก (เขียน)